How do you know ? Which motor is IE1 ?

รู้ได้อย่างไร ตัวไหนคือ มอเตอร์ IE1 ปัจจุบันการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในประเทศเรา ส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับมาตรฐาน IEC ซึ่งมีการกำหนดระดับประสิทธิภาพของมอเตอร์ โดยมีระดับมาตรฐานเริ่มต้นเป็น IE1 วันนี้เราจะมาแนะนำ 4 วิธีสังเกตว่าตัวไหนคือมอเตอร์ที่ได้มาตรฐาน IE1   1.ดูจากสัญลักษณ์ที่ติดอยู่บนตัวมอเตอร์หรือฝาครอบของกล่องไฟมอเตอร์ โดยสังเกตจากรูปภาพ จะมีใบไม้จำนวน 1 ใบ และมีระบุตัวอักษรด้านล่างฉลากว่า “SuperLine IE1” ใบไม้จำนวน 1 ใบ = IE1     2.ดูที่แผ่นป้ายมอเตอร์ หรือ Nameplate ซึ่งติดมากับมอเตอร์เสมอ จะมีระบุ “IE1” อย่างชัดเจน อยู่ที่แถว EFF. CLASS (ตามรูปภาพNameplate) นอกจากนี้ยังบ่งบอกข้อมูลเบื้องต้นของมอเตอร์ไฟฟ้าตัวนั้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ยี่ห้อและสถานที่ผลิต เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเหนี่ยวนำ 1 เฟส หรือ 3 เฟส Type ของมอเตอร์ ซึ่งหมายถึง รุ่น และ…

Read More

3 Easy steps to select motor not quickly damage

3 ข้อง่ายๆ เลือกมอเตอร์…ไม่พังเร็ว แรงดันไฟฟ้า (Voltage & Phase) แรงดันไฟฟ้า เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการทำงานของมอเตอร์ การเลือกมอเตอร์ที่มีแรงดันไฟฟ้าตรงกับระบบไฟฟ้าที่ใช้เป็นเรื่องสำคัญเพื่อป้องกันมอเตอร์ไหม้ หรือทำงานผิดปกติ แรงดันไฟฟ้ามี 2 ประเภทหลัก คือ – แรงดันไฟฟ้าแบบเฟสเดียว (Single Phase) – แรงดันไฟฟ้าแบบสามเฟส(Three Phase) มอเตอร์จะระบุแรงดันไฟฟ้าที่ใช้ทำงานไว้ที่เนมเพลท ควรเลือกมอเตอร์ที่มีแรงดันไฟฟ้าตรงกับแรงดันไฟฟ้าที่จ่ายเข้ามอเตอร์ เพื่อป้องกันการทำงานผิดปกติของมอเตอร์และช่วยยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์ กำลังของมอเตอร์ (Horsepower / Kilowatt) กำลังของมอเตอร์ เป็นตัวบ่งบอกถึงความสามารถในการทำงานของมอเตอร์ การเลือกมอเตอร์ที่มีกำลังไม่เพียงพอกับโหลดของเครื่องจักรจะทำให้มอเตอร์ทำงานหนักเกินไป และอาจนำไปสู่การไหม้ของมอเตอร์ได้ การเลือกมอเตอร์ที่มีกำลังมากเกินไปก็จะทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและอาจทำให้ต้นทุน การทำงานสูงขึ้นควรเลือกมอเตอร์ที่มีกำลังที่เหมาะสมกับโหลดของเครื่องจักรโดยดูจากข้อมูลในคู่มือของเครื่องจักร หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ จำนวนโพล (Pole) หรือ ความเร็วรอบ (Speed / min-1, rpm) จำนวนโพลของมอเตอร์มีผลต่อความเร็วในการหมุนของมอเตอร์ ควรเลือกมอเตอร์ที่มีจำนวนโพลที่เหมาะสม กับการใช้งานของเครื่องจักร โดยดูจากข้อมูลในคู่มือของเครื่องจักร หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญการเลือกมอเตอร์ที่มีความเร็วรอบไม่ตรงกับความต้องการของเครื่องจักรอาจทำให้เครื่องจักรทำงานผิดปกติหรือเสียหายได้ หมายเหตุ นอกจาก3ข้อหลักนี้แล้วควรคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานของมอเตอร์ เช่น สภาพแวดล้อมการติดตั้งและการบำรุงรักษา หากคุณไม่แน่ใจในการเลือกมอเตอร์ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้มั่นใจว่ามอเตอร์ที่เลือกนั้นเหมาะสมกับงาน และสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ…

Read More

5 Things Engineers need to know about IE1 Motor

5 ประเด็น ที่เอ็นจิเนียร์ต้องรู้เกี่ยวกับ “มอเตอร์ IE1” เป็นที่ทราบกันดีว่า ในปัจจุบันแนวโน้มการใช้พลังงานไฟฟ้าและค่าไฟฟ้าได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกอุตสาหกรรมต้องหาพลังงานทางเลือกหรือวิธีการที่ช่วยการลดการใช้พลังงานและต้นทุนการผลิต ดังนั้น หน่วยราชการหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องจึงได้มีการกำหนดมาตรฐานและกฏหมายต่างๆ ขึ้นมา เพื่อใช้ควบคุมการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มอเตอร์ไฟฟ้าก็เป็นอุปกรณ์พื้นฐานของทุกอุตสากรรมจำเป็นต้องใช้ ดังนั้น จึงมีการกำหนดมาตรฐานระดับประสิทธิภาพมอเตอร์ขึ้นโดย IEC  หรือเรียกย่อๆ ว่า IE codeแล้ว  “IE code คือ อะไร?”  วันนี้เราจมาะสรุป 5 ประเด็น เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ 1.IE code ย่อมาจาก International Energy efficiency class หรือระดับประสิทธิภาพมอเตอร์ ถูกแบ่งเป็น 4 ระดับ เริ่มจาก IE1, IE2, IE3 และ IE4 ตามมาตรฐาน IEC60034-30-1 ซึ่งแต่ละประเทศจะเป็นผู้กำหนดและบังคับใช้เป็นกฏหมาย 2.IE code ถูกกำหนดโดยใช้ค่า Efficiency หรือค่าประสิทธิภาพ(η) ที่คำนวณมาจากอัตราส่วนของ…

Read More

3 Things you should do before motor damage from electrical problem

3 ข้อสำคัญ ป้องกันมอเตอร์เสียจากระบบไฟฟ้า 1.หางปลา (Amp terminal) คือ เพื่อนรักมอเตอร์ การใช้หางปลา (Amp terminal) ต่อสายไฟเข้ามอเตอร์ทุกเส้นเป็นวิธีง่ายๆ แต่สำคัญที่ช่วยป้องกันปัญหาจากสายไฟหลุดหรือขาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หางปลาช่วยให้การเชื่อมต่อสายไฟแน่นหนาลดโอกาสเกิดการลัดวงจรหรือกระแสไฟฟ้ารั่วที่อาจทำให้มอเตอร์เสียหายได้ ควรเลือกใช้หางปลาที่มีขนาดที่เหมาะสมกับขนาดของสายไฟ และมอเตอร์เพื่อให้การเชื่อมต่อมีความมั่นคงและปลอดภัย 2.เบรกเกอร์และแมคเนติกส์ ต้องพร้อมใช้งาน เบรกเกอร์และแมคเนติกส์ เป็นอุปกรณ์สำคัญในการป้องกันมอเตอร์จากกระแสไฟฟ้าเกิน (Overload) หรือการลัดวงจร การตรวจสอบสภาพของเบรกเกอร์ และแมคเนติกส์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์เหล่านี้ทำงานได้อย่างถูกต้องและสามารถป้องกันมอเตอร์จากความเสียหายได้ (ควรทำการทดสอบเบรกเกอร์และแมคเนติกส์เป็นระยะเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์เหล่านี้ยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ) 3.ติดตั้งตัวป้องกันแรงดันไฟฟ้าตก/เกิน และไฟฟ้าไม่สมดุลเฟส แรงดันไฟฟ้าที่ไม่สมดุลหรือแรงดันไฟฟ้าตกเกิน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มอเตอร์เสียหาย การติดตั้งตัวป้องกันแรงดันไฟฟ้าตก/เกิน และไฟฟ้าไม่สมดุลเฟสจะช่วยป้องกันมอเตอร์จากปัญหาเหล่านี้ ตัวป้องกันเหล่านี้จะตัดกระแสไฟฟ้าเมื่อแรงดันไฟฟ้าผิดปกติช่วยป้องกันมอเตอร์จากความเสียหายและยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์ได้ หมายเหตุ การแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับมอเตอร์ไฟฟ้าควรทำโดยช่างผู้ชำนาญเพื่อความปลอดภัยและเพื่อป้องกันความเสียหายต่อมอเตอร์ การตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาและยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์ได้ การดูแลระบบไฟฟ้าให้ดีเป็นส่วนสำคัญของการใช้งานมอเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์ การเลือกใช้มอเตอร์และการดูแลระบบไฟฟ้าที่ถูกต้องจะช่วยให้มอเตอร์ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ พร้อมให้คำแนะนำ และบริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ สอบถามงานบริการ Line id : @service.meath สั่งซื้ออะไหล่มอเตอร์และปั๊มน้ำ Line id : @shop.meath ติดต่อทางโทรศัพท์ : 02-906-3337, 02-906-3338 ตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานของคุณ…

Read More
แกนเหล็ก Stator

Increase the length of the stator core

แกนเหล็ก Stator เบื้องหลังพลังขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า แกนเหล็ก Stator ดูเหมือนจะธรรมดา แต่ปัญหาเล็กๆ ที่เกิดขึ้นกับชิ้นส่วนนี้ อาจทำให้มอเตอร์เสียหายได้อย่างไม่คาดคิด มาดูกันว่าปัญหาเหล่านั้นคืออะไร และจะป้องกันได้อย่างไร ปัญหาอะไรที่มักพบเจอบ่อยๆ กับแกนเหล็ก Stator ? การออกแบบที่ไม่เหมาะสม การออกแบบที่ไม่เหมาะสม เช่น ขนาด, รูปร่าง หรือวัสดุที่ใช้ จะส่งผลต่อประสิทธิภาพ แรงบิด และสมรรถนะต่างๆ ของมอเตอร์ อาจทำให้มอเตอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือเกิดความเสียหายได้ การเลือกใช้วัสดุและการออกแบบที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ข้อผิดพลาดในการผลิต ข้อผิดพลาดในการผลิต เช่น การประกอบที่ไม่ถูกต้อง การขึ้นรูปที่ผิดเพี้ยน จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือน เสียงดัง และลดประสิทธิภาพการทำงานของมอเตอร์ การควบคุมคุณภาพในการผลิต จึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า แกนเหล็ก Stator มีคุณภาพ และตรงตามมาตรฐาน คุณภาพของวัสดุ การใช้วัสดุที่มีคุณภาพต่ำ หรือไม่ตรงตามมาตรฐาน จะทำให้แกนเหล็ก Stator ไม่มีความแข็งแรง และความทนทานลดลง อาจเกิดการแตกหัก หรือเสียหายได้ง่ายและลดอายุการใช้งานของมอเตอร์ การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง…

Read More
EDP Painting

Motor plating using EDP method

ปัญหาที่ผู้ใช้มักพบบ่อยได้บ่อยๆกับการพ่นสีมอเตอร์แบบธรรมดา หลายคนอาจมองข้ามความสำคัญของกระบวนการเคลือบผิว หรือการพ่นสีมอเตอร์ คิดเพียงว่าเป็นแค่การตกแต่งให้ดูสวยงาม แต่ในความเป็นจริงการพ่นสีมอเตอร์ด้วยวิธีการทั่วไป มักก่อให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ อายุการใช้งาน และความปลอดภัย เพื่อให้คุณเข้าใจถึงความสำคัญของการเลือกใช้วิธีการเคลือบผิวที่เหมาะสมสำหรับมอเตอร์ของคุณ บทความนี้จะเจาะถึงปัญหาที่พบบ่อยได้บ่อยๆ ของการพ่นสีมอเตอร์แบบธรรมดาได้ดังนี้ การกัดกร่อน : การชุบสีที่ไม่ดีหรือไม่ทั่วถึง จะทำให้เฟรมมอเตอร์สัมผัสกับความชื้น, สารเคมี หรือสิ่งแวดล้อมที่กัดกร่อนได้ง่าย ส่งผลให้เกิดสนิม และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ลดอายุการใช้งานของมอเตอร์ บางส่วนอาจหนาหรือบางจนเกินไป หรืออาจมีรอยที่สีไม่ติดทำให้ดูไม่สวยงาม และอาจส่งผลต่อคุณภาพการป้องกันการกัดกร่อน ความสวยงามลดลง : สีที่ไม่เรียบเนียน, มีรอยด่าง หรือลอกหลุดง่ายจะทำให้เฟรมมอเตอร์ดูไม่สวยงาม การป้องกันความร้อนลดลง : การชุบสีที่ไม่ดีอาจทำให้คุณสมบัติในการป้องกันความร้อนลดลง ส่งผลให้เฟรมมอเตอร์มีความเสี่ยงต่อการเสียหายจากความร้อนที่สูงเกินไป โดยเฉพาะในมอเตอร์ที่ทำงานหนัก หรืออยู่ในสภาวะอุณหภูมิสูง ปัญหาเหล่านี้ทำให้มอเตอร์ที่พ่นสีแบบธรรมดามีอายุการใช้งานสั้นลง ดูไม่สวยงาม และอาจเกิดความเสียหายได้ง่าย การเลือกใช้วิธีการเคลือบผิวที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญ เพื่อให้ได้มอเตอร์ที่มีคุณภาพ และอายุการใช้งานยาวนาน แล้วการชุบสีมอเตอร์แบบ EDP คืออะไร ? EDP ย่อมาจาก Electro Deposition Painting หรือการชุบสีด้วยไฟฟ้าเป็นเทคนิคการชุบสีที่ใช้กระแสไฟฟ้าในการเคลือบสีลงบนพื้นผิวของชิ้นงาน โดยใช้สารละลายสีที่มีอนุภาคของสีแขวนลอยอยู่ในน้ำ หรือตัวทำะลาย กระบวนการนี้ จะใช้กระแสไฟฟ้าผ่านชิ้นส่วนโลหะ ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี…

Read More
การเชื่อมเฟรมด้วย Robot

Frame welding technology with Robot

แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมเฟรมด้วย Robot ในยุคที่เทคโนโลยีขับเคลื่อนการผลิตการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในกระบวนการต่างๆ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานเชื่อมเฟรมมอเตอร์ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูงและความสม่ำเสมอในการผลิต การเชื่อมเฟรมมอเตอร์ด้วยหุ่นยนต์ (Robot Welding) เหนือกว่าการเชื่อมด้วยระบบ Manual แบบเดิมๆ ดังนี้ ความแม่นยำสูง หุ่นยนต์มีความสามารถในการเคลื่อนที่และวางตำแหน่งเชื่อมได้อย่างแม่นยำสูง ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้จากความไม่สม่ำเสมอของแรงงานคน ประสิทธิภาพการผลิตที่เหนือชั้น หุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เหนื่อยล้า ไม่มีพักหยุด ทำให้การผลิตเฟรมมอเตอร์สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเพิ่มปริมาณการผลิต และลดเวลาการผลิต คุณภาพที่สม่ำเสมอ หุ่นยนต์สามารถทำซ้ำกระบวนการเชื่อมได้อย่างแม่นยำในทุกๆ ครั้ง ทำให้ได้คุณภาพการเชื่อมที่สม่ำเสมอ และลดความแปรปรวนของผลิตภัณฑ์ ลดต้นทุนแรงงาน การใช้หุ่นยนต์สามารถลดแรงงานคนในกระบวนการผลิต ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน และต้นทุนการผลิตโดยรวม ปรับแต่งง่าย โปรแกรมการทำงานของหุ่นยนต์สามารถปรับแต่งได้ง่าย ทำให้สามารถรองรับการผลิตเฟรมมอเตอร์ที่มีความหลากหลายและการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ปัญหาที่เกิดจากการเชื่อมเฟรมมอเตอร์ไม่ดีมีอะไรบ้างล่ะ ? เฟรมมอเตอร์ที่เชื่อมต่อไม่ดีดูเหมือนจะเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่ผลกระทบที่ตามมาอาจร้ายแรงตั้งแต่การทำงานผิดพลาด เสียงรบกวน จนถึงความเสียหายที่อาจก่อให้เกิดอันตราย เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของการเชื่อมเฟรมมอเตอร์ ปัญหาต่างๆที่เกิดจากการเชื่อมเฟรมมอเตอร์ที่ไม่สมบูรณ์มีอะไรบ้างเรามาดูกัน ประสิทธิภาพการทำงานลดลง: การเชื่อมเฟรมมอเตอร์ที่ไม่ดีอาจทำให้โครงสร้างของเฟรมมอเตอร์ไม่แข็งแรง เกิดการสั่นสะเทือน หรือเกิดเสียงดังผิดปกติขณะทำงาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของมอเตอร์ลดลง อาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพหรือเสียหายได้ง่าย ความร้อนสูงเกินไป: ถ้าการเชื่อมไม่สมบูรณ์อาจทำให้เกิดจุดเชื่อมต่อที่อ่อนแอ และเกิดความร้อนสะสมในบริเวณนั้นมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ฉนวนของมอเตอร์เสียหาย เกิดไฟฟ้าลัดวงจร…

Read More
มอเตอร์ IE3 คืออะไร

What is IE3 ? How is it different from IE2 and IE1?

IE3 คืออะไร ต่างยังไงกับ IE2 และ IE1 ? ในโลกปัจจุบัน นโยบายเกี่ยวกับการลดการใช้พลังงานนั้นถูกหยิบยกมาพูดถึงกันหลายต่อหลายครั้ง เพราะนอกจากจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้วยังเป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ เพราะการลดการใช้พลังงานเท่ากับการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกตัวสำคัญ ออกสู่ระบบ และโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรม ที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการดำเนินกิจการในปริมาณที่สูงมาก ยิ่งต้องให้ความใส่ใจในเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ “มอเตอร์-ตัวจักรสำคัญที่กินไฟบนโลก” ข้อมูลจาก Motor Summit 2012 ได้ระบุว่า มอเตอร์นั้นมีการใช้พลังงานไฟฟ้า 46% จากการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งโลก นั่นคือหากเราสามารถลดการใช้พลังงานของมอเตอร์ได้ ก็จะมีผลโดยตรงกับการลดการใช้พลังงานโดยรวมของเราได้เลยทีเดียว และหนึ่งในวิธีการที่จะลดการใช้พลังงานของมอเตอร์นั่นก็คือ การใช้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อลดการสูญเสียในการทำงาน โดยวิศกรต้องแยกให้ออกก่อนให้ได้ว่ามอเตอร์ตัวไหนที่มีมาตรฐานมากพอที่ทำให้ประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งในครั้งนี้เราจะมาพูดถึง มาตรฐานสำคัญตัวหนึ่งที่วิศวกรต้องรู้ นั่นก็คือ มาตรฐาน IE3 นั่นเอง มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง (IE3) มันคืออะไร ต่างจากมอเตอร์อื่นๆ อย่างไรล่ะ ? มอเตอร์ IE3 เป็นมอเตอร์ที่ใช้ในระบบเครื่องจักรและอุตสาหกรรม แต่มีความแตกต่างกันตามมาตรฐานประสิทธิภาพการใช้พลังงานของมอเตอร์ที่ถูกกำหนดโดย องค์กรมาตรฐานสากล (International Electrotechnical Commission; IEC) โดยที่จะมีความแตกต่างจากมอเตอร์ IE2 และ IE1…

Read More

Let your industry use electrical energy more efficiently

ให้อุตสาหกรรมของคุณใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายด้านค่าไฟฟ้า ด้วย “โรเตอร์ออกแบบพิเศษ”ของมอเตอร์มิตซูบิชิ IE3 ที่ ลดการสูญเสียจากโหลด (Stray Load Loss) เพราะการออกแบบสล็อตโรเตอร์ใหม่ ให้มีขนาดใหญ่และรูปร่างที่เหมาะสมขึ้น ให้สามารถไหลเวียนกระแสไฟฟ้าได้ดีกว่าเดิม ทำให้ลดการสูญเสียจากโหลดลงได้

Read More
ร่องสล็อตมอเตอร์

Super Line Q Series IE1 increase magnetic field by new design slot shape

มอเตอร์ไฟฟ้ามิตซูบิชิ คิดค้นวิธีการออกแบบให้มอเตอร์สร้างสนามแม่เหล็กและเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าที่แกนหมุนโรเตอร์ได้เต็มประสิทธิภาพ ด้วยร่องสล็อตแกนเหล็กให้ใหญ่ขึ้น 1.25 เท่า และเพิ่มปริมาณขดลวดมากกว่าเดิม 20% ทำให้มอเตอร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ กินไฟน้อยลง ประหยัดค่าไฟมากขึ้น “ สนามแม่เหล็กเพิ่มขึ้น ร่องสล็อตแบบใหม่ ”

Read More